จังหวัดบึงกาฬ

เที่ยวหินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ Unseen ของธรรมชาติที่มีความงดงาม

เที่ยวหินสามวาฬ ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ป่าสงวนแห่งชาติ 3 ป่าคือ ป่าดงดิบกะลา ป่าดงสีชมพูและป่าภูสิงห์ รูปทรงของก้อนหินที่มีลักษณะเป็นพิเศษ มีความงดงามที่ไม่ธรรมดา หากต้องการสัมผัสด้วยตาตัวเอง ก็คงจะต้องรีบเก็บกระเป๋าเดินทางไปจังหวัดบึงกาฬ ดินแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งรูปทรงต่างๆที่นอกเหนือจากหินสามวาฬ ก็ยังมีถ้ำและก้อนหินทรงอื่นๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้ภาพที่เราได้พบนั้น สวยงามในลักษณะที่แตกต่าง

เที่ยวหินสามวาฬ

ดินแดนแห่งนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางเข้ามาชมด้วยตนเอง  เที่ยวหินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นหินที่มีขนาดใหญ่แยกเป็น 3 ก้อน ติดกับหน้าผาสูง เรียงต่อกัน พื้นที่แห่งนี้ สำรวจจากนักธรณีพบว่า หินดังกล่าวมีอายุประมาณ 75 ล้านปี ซึ่งมันไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เมื่อมองไกลๆจะคล้ายกับฝูงปลาวาฬ ที่แหวกว่ายในท้องทะเลกว้างไกล หากจินตนาการออกไป ก็มองเหมือนครอบครัว เหล่าบรรดาฝูงปลาวาฬที่มีทั้งพ่อแม่และลูกนั่นเอง โดยสมญานามนี้ จะมาจากลักษณะของก้อนหินแต่ละก้อน ที่มีขนาดต่างกัน นั่นเอง สถานที่ท่องเที่ยว

ชมความงามของพระอาทิตย์ไล่เฉดสี สำหรับการ เที่ยวหินสามวาฬ

พื้นที่ดังกล่าว มีจุดชมวิวที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆในประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็น unseen ของภูสิงห์ได้ทีเดียวเที่ยวหินสามวาฬเราจะได้พบกับช่วงเวลาที่ต้องเก็บภาพแห่งความประทับใจนี้ไว้ นั่นคือในช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้น ทั้งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าหน่อย มาชมพระอาทิตย์ที่จะค่อยๆไต่ระดับออกมาจากขอบฟ้า และได้เห็นเฉดสีแห่งความงดงาม หากเก็บภาพนี้ไว้ได้ ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี เป็นอย่างยิ่ง

เที่ยวหินสามวาฬ

นอกจากนั้น ทิวทัศน์ต่างๆบริเวณรอบๆ จะมองเห็นแบบไกลลูกหูลูกตา ที่สำคัญหากมองไปไกลๆ ก็จะรู้ว่าอีกฟากหนึ่งเป็นประเทศลาว ซึ่งมีภูเขาเมืองปากกระดิ่ง มองเห็นลำแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ บรรยากาศแบบนี้หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว ใครก็ตามที่อยากเดินทางมาเที่ยวหินสามวาฬจังหวัดบึงกาฬ ต้องนำรถโฟวิลมา แต่ถ้าหากไม่มี ก็จะมีการบริการให้พวกเราได้เดินทางจากรถสาธารณะ ในช่วงเวลา 05:00 น ถึง 17.00 น. นั่งได้ 10 คน ทั้งไปและกลับ คิดราคา 500 บาทเท่านั้น เดินทางเพียงแค่ 30-40 นาที ก็จะถึงจุดหมายให้เราได้ชมความงามของพระอาทิตย์ ดังที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน

Related Posts